วันพุธที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

หวัดมรณะ ที่ทางการมองข้าม 2

เอาละครับ กลับมาคุยกันเรื่องหวัดอีกแล้วครับ ช่วงนี้ AF ก็เริ่มเข้าบ้านแล้วนะครับ เรามาดูกันดีกว่าว่า จะมีแหล่งใด เป็นที่แพร่ระบาดได้อีกครับ
1. แหล่งบันเทิง ผับ บาร์ ที่มักปิดทึบ เพื่อเก็บเสียง ยังจำได้นะครับ นั่นแหละครับ ซานติก้าผับที่ ทองหล่อ ไงครับ นอกจากเรื่องของเพลิงไหม้ แล้วยังเป็นแหล่งแพร่ระบาดของโรคต่างๆ ได้อย่างดี ห้องน้ำ โต๊ะ เก้าอี้ ภาชนะ คนครัว คนเซิฟ
2. โรงภาพยนต์ ครับ เก้าอี้ พรม ห้องน้ำ เครื่องปรับอากาศ มีการเปิดระบายอากาศ และทำความสะอาดกันบ่อยแค่ใหน ควรทำทุกรอบนะครับ ผมอยากเห็นโรงหนัง ระดับ 5 ดาว ที่ดังๆ ทำเป็นตัวอย่าง ครับ
3. คอนเสิรต์ นี่ไงครับ ที่ผมเริ่มทักตอนต้น เรื่อง AF ไงครับ รวมไปถึง โรงละคร ต่างๆ ผู้ประกอบการ กรุณารับผิดชอบ ต่อผู้บริโภคด้วยนะครับ
4.ทหารเกณฑ์ รด. ที่ชอบเน้น ความสามัคคี อันนี้ไม่ผิดนะครับ แต่บางอย่างควรงด เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดนะครับ ตอนผมฝึก รด. ครูฝึกให้อมฮอล์ 1 เม็ด เวียนทั้งหมู่ จนกว่าจะหมด สาระพัดโรคนะครับ ครูฝึกครับ ในส่วนของทหารเกณฑ์ โรงนอน โรงครัว มีการป้องกันอย่างไรบ้างครับ ช่วงหลังๆนี่ หทารเกณฑ์ ก็ได้ขึ้นหน้า 1 กะเขาเหมือนกันนะครับ ขนาดว่าฝึกกันจนร่างกายแข็งแกร่งปึกๆ เลยนะนี่
5.เรือนจำครับ กรุณาวางเกณฑ์ การป้องกันใน เรือนจำให้ดีนะครับ ความแออัด และ สุขอนามัย ต้อง แก้ไขนะครับ มันแพร่สู่ภายนอกได้ โดยผ่านญาติที่เข้าไปเยี่ยมครับ
วันนี้ เอาไปอีก 5 แหล่งเสี่ยงนะครับ ผมได้ฟังคนที่รู้จัก บอกว่าเป็นไข้สุง ปวดหัว ไปโรงพยาบาล เอกชน ตรวจ เพราะกลัวจะเป็นหวัด อินเทรนด์ ปรากฎว่าค่าตรวจและยา เข้าไป สามพันกว่าบาท ถ้าแพงขนาดนี้ และทางการไม่ออกมาคุม ผมว่ามันจะยิ่งแพร่ระบาดหนักขึ้น เพราะคนกลัวเสียตังค์ ยอมเสี่ยงดีกว่า และในขนาดที่ตัดสินใจว่ายอมเสี่ยงดีกว่า ก็ตัดสินใจด้วยว่า ไม่ใส่ผ้าปิดจมูก ขณะเดินทางไปในที่ต่างๆ เพราะ ไม่สะดวก อาย ไม่คุ้นเคย ลำคาญ นี่ไงครับ พาหะ นำโรค ตัวจริง เลยครับ
ผมอยากเห็น หน่วยงาน ขนส่งมวลชน ประกาศเตือน ผุ้ใช้บริการทุกวัน ทั้งวัน ไม่ใช่ ทำป้ายเล็กๆไปวางไว้ เพื่อนผมบอกว่า บ้าหรือเปล่า คนจะแตกตื่น ผมว่าเวลานี้ ถ้ากลัวคนแตกตื่น โรคก็ยิ่งระบาดครับ ควรประกาศ เรื่อยๆครับ เพื่อปรามพวกที่เป็นหวัด มีไข้ ไอ จาม ไม่ยอม ปิดผ้า จะได้เกรง กลัวจะถูกสังคม มองด้วยความรังเกียจ จะได้หามาใส่ซะ
เอาไว้พรุ่งนี้ มาคุยกันต่อครับ

วันจันทร์ที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2552

หวัดมรณะ ที่ทางการมองข้าม 1

ยินดีต้อนรับ พี่น้องผุ้ร่วมชะตากรรม ที่ต้องใช้ชีวิตในมหานคร ที่เต็มไปด้วยสารพิษ และ โรคร้าย โดยที่ทางการหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ได้เอาใจใส่อย่างจริงจัง หรือจะด้วยความด้อยความรุ้ หรือประสบการณ์อ่อน ก็ไม่ทราบ ถึงได้ปลอ่ยให้หวัด ลุกลามอย่างรวดเร็ว ผมมองเห็นทันที ตั้งแต่ วันแรกแล้วครับ ว่าไทยเราหนีไม่พ้นโรคระบาดนี้แน่นอน ท่าน รมต......ออกมาพูดว่า เราป้องกันได้ เราเอาอยู่ เชื่อมือได้ สารพัดจะกล่าวอ้าง แล้วตอนนี้ ท่าน รมต.....แสดงความรับผิดชอบอะไรครับ
การตั้งเครื่องสแกนความร้อน ไม่ได้แก้ปัญหา หากผู้รับเชื้อยังไม่แสดงอาการ หรือเพิ่งจะได้รับเชื้อมาจากบนเครื่อง ความร้อนในตัว คงจะไม่ขึ้นภายใน เวลาไม่กี่นาทีแน่นอน และเมื่อผ่านด่านมาได้ ผลก็อย่างที่เห็นไงครับ
ผมเตือนเพื่อนๆที่มีลูกเล็ก เด็กแดง ที่ต้องไปโรงเรียน เพราะอยู่ในช่วงใกล้เปิดเทอมว่า ระวังนะ เพราะจนป่านนี้จะเปิดโรงเรียน แล้ว ยังไม่เห็นหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง มีนโยบายอะไรมาป้องกัน หรือตรวจสอบ สถานศึกษา โดยเฉพาะเด็กเล็ก อนุบาล ที่ต้องมีช่วงให้นอนพักในห้องรวม ไม่มีครับ แม้แต่ ท่าน รมต...ที่เคารพ มองข้ามจุดนี้ครับ ณ วันนี้ 29 มิ.ย. 52 ท่านคงเห็นแล้วนะครับ ว่า จุดเริ่มระบาดมาจาก โรงเรียนจริงๆ ครับ การที่ ผู้ว่า ไปกวาดไปล้าง ก็ไม่ตรงจุด ซักเท่าไหร่ ที่แย่ไปกว่านั้น ท่านไปออกหน้ากล้อง โดยไม่ใส่ผ้าปิดปากจมูก ก็เลยทำให้คนเห็นว่า ไม่น่ากลัว อย่างที่คิด
เรามาว่ากันที่สถานศึกษา ก่อน ที่ควรระวัง
1. ที่อยุ่ในระบบ ท่านมีการอบรม บุคคลากร ของสถานศึกษา ในการเฝ้าระวัง และป้องกันอย่างไรครับ ทั้งตัวอาจารย์ เด็ก นักการภารโรง คนครัว คนขายอาหาร คนขับรถส่งนักเรียน ท่านมีกฎบังคับให้สวมผ้าปิดปากจมุก เคร่งครัดแค่ใหน อุปกรณ์การเรียนการสอน ประตู ลูกกลอน ห้องน้ำ มีการใช้น้ำยา หรือ น้ำร้อน ราดเป็นระยะหรือไม่ เด็กที่ไม่สบาย ท่านให้หยุดเรียนทันทีหรือไม่ ที่ทราบมา โรงเรียน พวก เซนต์ ของหลานผม ปล่อยให้เด็กเป็นหวัดไปเรียน กันเฉย และไม่สั่งให้ป้องกัน ผลสุดท้าย ปิดครับ 7 วัน กรณีของห้องเรียนปรับอากาศ ท่านมีนโยบาย อย่างไร จะเปิดหน้าต่างแทน เพื่อให้อากาศถ่ายเท หรือจะทำความสะอาดแอร์ โดยสเปรย์ยาฆ่าเชื้อ ทุกสัปดาห์ จริงๆ ถ้าเป็นคนหนึ่งแล้วนั่งเรียนในห้องนั้น คนที่อยู่ในห้อง ก็รับเชื้อกันทุกคนครับ จะล้างทุกวันคงไม่ได้
2. รร กวดวิชา ใครจะเข้าไปคุม โดยเฉพาะพวกเรียนแห้ง คือเปิดวิดิโอ ไม่มีอาจารย์สอน แล้วใครจะคอยดูแลเด็ก ควบคุม การแพร่เชื้อครับ การทำความสะอาดโต๊ะเรียน ห้องน้ำ เครื่องปรับอากาศ ร้านอาหาร การบังคับ ให้ ผุ้จำหน่ายน้ำดื่ม อาหารให้ใส่ผ้าปิดปาก ปิดจมูกครับ
3. ร้านตัดผม สาธารณสุข เมื่อไหร่ครับ จะบังคับ ให้ผู้มีอาชีพ ช่างตัดแต่งผม ต้องสวมผ้าปิดปากจมูก ใบมีดโกน ต้องเปลี่ยน ผ้าเช็ด ต้องทำความสะอาด ไม่ให้มีกลิ่นอับ ควรเป็นกระดาษที่ใส่ซอง ใช้ครั้งเดียวทิ้ง ที่สถานที่แห่งนี้ นอกจากแพร่หวัดแล้ว ยังมีโรคอื่นระบาดอีก เช่น เหา ,กลาก ,เกลื้อน,หวัด,วัณโรค ฯลฯ เอาจริงซะทีเถอะครับ ตั้งมาตราฐาน ร้าน แล้วติดดาวให้ไปเลย เพื่อให้ผุ้บริโภคเลือก
4.รถไฟฟ้าใต้ดิน ,รถตู้,รถเมล์ปรับอากาศ รถเท็กซี่ มีการระบายอากาศ ทำความสะอาด ราวจับ ผ้าม่าน เบาะ แอร์ กันอย่างไร คนขับ คนเก็บเงิน บังคับให้สวมผ้าปิดปาก ปิดจมูกหรือเปล่าครับ โดยเฉพาะรถตู้ ถ้าเป็นหวัด นึกภาพดูนะครับ ควรมีกฎลงโทษพวกไอ จาม ในรถสาธารณะที่ไม่ยอมใช้ภาพปิด ปาก นะครับ จามที ผมคนนั่งหน้ากระเจิงเลย นึกภาพ เห็นมั๊ยครับ ละออง น้ำมูก น้ำลาย กระเด็น มาติดหน้าติดปาก ต้นคอ และผม สยองนะครับ รถไฟฟ้าใต้ดิน ก็มีระบบประกาศชื่อสถานีอยู่แล้ว ท่าน ควรเพิ่มประกาศด้วยว่า ...เรียนท่าน ผุ้ใช้ บริการ หากท่านมีอาการ ไม่สบาย เป็นไข้ ตัวร้อน หรือ ไอ จาม ควรมีสวมผ้าปิดปากและจมูก เพื่อไม่ให้ผุ้อื่นได้รับเชื้อ ท่านสามารถหยิบ ผ้าปิดปากจมูก ที่ทางเราเตรียมไว้ที่จุดต่างๆในสถานี หรือ ในตัวรถ ได้คะ.... เห็นด้วยกับผมมั๊ยครับ รับรองว่าพวกหน้าหนา ไม่ใส่ใจในความเดือนร้อนของคนอื่น ได้ยินอย่างนี้ ถ้าจะทำอีก ก็ต้องบอกว่า พ่อแม่ ไม่สั่ง ไม่สอนครับในรถตู้ รถเมล์แอร์ รถเท็กซี่ ก็ต้องทำครับ ฉวยโอกาศนี้ ปลูกฝังนิสัย ในการป้องกันการแพร่ระบาด ได้ดีทีเดียว จะได้ไม่ต้องเสียเงินไปสั่งวัคซีนจากเมืองนอกมาไงครับ ผ้าพืนหนึ่งกี่ตังค์กันครับ
5.วินมอเตอร์ไซด์ พวกนี้ครับ ต้องสวมทุกคนครับไม่งั้นปรับเลยครับ เที่ยวนึง ไม่ต่ำกว่า 10 บาท กะอีแค่ผ้าผืนเดียว ไม่ลงทุนเลยหรือไง คุณจามที ผมนั่งหลัง รับเต็มหน้าเต็มปาก เลยครับ และต้องสวมตลอดเลย
6.ร้านอาหาร ร้านเครื่องดื่ม กาแฟ ฯลฯ ผนักงาน คนปรุง คนทำ ต้องสวมผ้าปิดจมุกทุกคน ทกวัน และตลอดไป แม้สถานการณ์การแพร่ระบาดจะหมดไปแล้ว ผมเชือว่า ต่อไปเราจะกินอาหารได้สบายใจมากขึ้น ไม่ใช่ ร้านข้าวแกง ตามตลาด เอาเด็กพม่า เขมร ที่มีสารพัดโรคมาเซิฟมาทำอาหาร ให้เรากิน
7.ห้างสรรพสินค้า ต้องมีการประกาศ เช่นเดียวกีน เพื่อเตือน และปรามให้ เกรงใจ และรู้จักรับผิดชอบ ต่อสังคมส่วนรวม
8.การอบรมสัมมนา ต้องมีการประกาศ เช่นเดียวกีน เพื่อเตือน และปรามให้ เกรงใจ และรู้จักรับผิดชอบ ต่อสังคมส่วนรวม
9.โรงพยาบาล บุคคลากรทุกคน ของโรงพยาบาล ทุกระดับ หมอ พยาบาล เวรเปล แม่บ้าน แม่ครัว ต้องสวมหน้ากากกันตลอดเวลา ผมไป รพ. แถวเพชรบุรี ปรากฎว่า ศูนย์ทางเดิน หายใจ หมอกับพยาบาล 5-6 คน เป็นหวัดอย่างหนัก ไอ จาม น้ำมูกไหล แต่ก็ยังยืนเคาะปอดให้คนไข้อยู่ แล้วคนไข้เป็นโรคปอด ถ้าติดหวัดจากคุณไม่ตายหรือครับ ห้องน้ำในโรงพยาบาล ส่วนกลาง และ ห้องผู้ป่วย ต้องใช้น้ำยาฆ่าเชื้อ ทุกวัน
เอาแค่นี้ก่อนมั๊ย 9 ข้อนี้ ผมก็ว่าน่ากลัวแล้วนะ เอาไว้วันพรุ่งนี้ผมจะมาว่ากันมั๊ย
ก็ได้แต่หวังว่า เสียงน้อยๆนี้ จะได้ไปถึงหู คนที่รับผิดชอบกันบ้าง